รัสเซีย เที่ยวได้เลยไม่ต้องขอวีซ่า !!!!
สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน >< วันนี้ ทัวร์ 365 วัน ของเรามีบทความท่องเที่ยวดีๆมาฝากกันอีกแล้ว วันนี้เราจะไปเที่ยวรัสเซียกันค่าา เราจึงอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกคนเปิดหูเปิดตาไปเที่ยวรัสเซียด้วยกันสักครั้ง พบกับความงามอันหลากลายสถาปัตยกรรมเลื่องชื่อแปลกตา และประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนาน ของแบบนี้ดูในรูปให้สวยยังไงก็ไม่สู้ดูของจริง
แถมยังเที่ยวได้เลยไม่ต้องขอวีซ่า อย่ามัวแต่คิดมาก ป่ะ ! ไปเที่ยวกัน ! ค่ะ
พระราชวังเครมลิน รัสเซีย (Grand Kremlin Palace)
สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราต้องมาเยือนสักครั้งเมื่อมาเที่ยว เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย นั่นก็คือ พระราชวังเครมลิน ที่นี่ถือว่าเป็นศูนย์กลางหัวใจของชาวรัสเซียเพราะมีสถาปัตยกรรมที่งดงามเก่าแก่และล้ำค่าไว้มากมาย โดยพระราชวังเครมลินนั้นมีอายุมากกว่า 850 ปีและถูกสร้างขึ้นในยุค “พระเจ้าอีวานที่ 3” และยิ่งใหญ่อยุ่บนพื้นที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตรจนสามารถแบ่งเป็นห้องได้ถึงได้มากถึง 700 ห้องยิ่งใหญ่มากๆเลยทีเดียว จุดสำคัญเมื่อมาเที่ยวที่พระราชวังเครมลินก็คือ กำแพงสีแดงที่มีขนาดใหญ่แบบอลังการงานสร้างและยาวมากๆถึง 2.25 กิโลเมตร มีป้อมกรัจายตัวกันบริเวณกำแพงถึง 21 แห่ง สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงแต่ละป้อมจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกันและยังถือว่าเป็นพิพิธธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง และเป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบทั้งรูปเคารพทางศาสนา และสมบัติของพระเจ้าซาร์ล้วนเก็บอยู่ในห้องต่างๆ ใน พระราชวังเครมลิน มากมายจนประเมินค่าไม่ได้และนอกจากนั้นทาง UNESCO ได้จัดให้ พระราชวังเครมลินเป็นมรดกของโลกอีกด้วย ?
มหาวิหารเซนต์บาซิล รัสเซีย (Saint Basil’s Cathedral)
มหาวิหารเซนต์บาซิล ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของรัสเซียเลยค่ะถ้าพูดถึงรัสเซียยังไงทุกคนก็จะนึกถึงตึกสีแดงทรงแปดเหลี่ยมที่มีโดมเป็นทรงหัวหอมหลากสีเหมือนลูกกวาดสวยงามเหมือนเทพนิยายกันใช่มั้ยละคะโดยสถานที่จริงก็สวยงามแบบในรูปเลยค่ะมหาวิหารเซนต์บาซิลนั้นตั้งอยู่ที่จัสตุรัสแดงเป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัสเซีย โดยประวัติคร่าวๆของ มหาวิหารเซนต์บาซิลนั้น คือ ถูกสร้างเมื่อ ค.ศ. 1555 ในสมัยพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย เพื่อฉลองชัยชนะที่มีต่อมองโกล ในปี ค.ศ. 1552 ซึ่งทำให้รัสเซียสามารถรวมชาติได้ในที่สุด และได้ถูกออกแแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อว่า ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟซึ่งพระเจ้าชาร์อีวานที่ 4 ทรงรู้สึกพอพระทัยในความสวยงามของมหาวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก แต่ความงดงามของวิหารแห่งนี้ต้องแลกมาด้วนดวงตาของ ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ เพราะพระเจ้าอีวานที่ 4 ได้มีคำสั่งให้ควักดวงตาทั้งสองของสถาปนิกเพื่อไม่ให้สามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก แต่นี่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น ภายในวิหารแห่งนี้มีความแตกต่างจากที่อื่นเป็นอย่างมากเพราะมีการตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สีสันสดใสเป็นส่วนใหญ่มีเว้นไว้ตรงภาพประดับบนฉากศักดิ์สิทธิ์และเพดานยอดโดมที่เป็นรูปเคารพของพระเยซูและพระแม่มารีทำให้มหาวิหารเซนต์บาซิลแตกต่างจากวิหารแห่งอื่นทั้งรูปลักษณ์ ภายนอกและการตกแต่งภายใน และ ด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปปั้นอนุสาวรีย์คอสมา มินิน และ เจ้าชายดมิทริ โปซาร์สกี้ ซึ่งหล่อด้วยทองสำริด อีกด้วย………………………………?
โบสถ์หยดเลืด รัสเซีย
(Church of the Savior on Spilled Blood)
หลายคนคงอาจะสงสัยหรืออาจจำซ้ำกันว่าโบสถ์หยดเลือดก็คือมหาวิหารเซนต์บาร์ซิล เพราะทั้งสองมีลักษณะโครงสร้างที่ดูคล้ายกันตรงโดมที่เป็นหัวหอม แต่ขอบอไว้ก่อนนะคะว่าเป็นคนละสถานที่กัน โดย โบสถ์หยดเลือดแห่งนี้ถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 เพราะระลึกถึงพระองค์ซึ่งทรงเป็น ผู้ประกาศเลิกทาสด้วยความหวังดีต่อประชาชน แต่คนรัสเซียในสมัยนั้น งง ไม่เข้าใจว่าจะเลิกทาสเพื่ออะไรเพราะความเป็นอยู่ของ ชาวนา ชาวไร่กลับยิ่งแย่ขึ้น ทำให้จนลง พวกเขาจึงวางแผนที่จะปลิดชีพพระองค์ด้วยการส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งที่ติดระเบิดพลีชีพแล้ววิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ซึ่งในบริเวณที่สร้างโบสถ์สีเลือดนั้นเป็นบริเวณที่พระองค์ ถูกลอบปลงพระชนม์ในปี ค.ศ. 1881 จึงทำให้เกิดโบสถ์หยดเลือด หรืออีกเรียกชื่อว่า โบสถ์แห่งการคืนชีพนั้นเองค่ะ
พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ รัสเซีย (Peterhof palace)
พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และยังถูกขนานนามอีกว่าเป็น “พระราชวังแวร์ซายแห่งรัสเซีย” อีกด้วย พระราชวังแห่งนี้นอกจากโดดเด่นในโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว สิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งก็คือ สวนน้ำพุที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยงามถ้ามองออกไปจากตัวพระราชวัง ผ่านน้ำพุจะมองเห็นทะเลบอลติก อีกด้วย สาวนภายในพระราชวังนั้นถูกตกแต่งด้วยสีทองตระการตา ดุจดังเทพนิยายในดิสนีย์เลยที่เดียวค่ะนักท่องเที่ยว ด้านอกก็ถุกจัดสรร ตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศน่าร้อนของรัสเซียอีกด้วยน่าไปเที่ยวมากจริงๆค่ะ
พระราชวังแคทเธอรีน รัสเซีย (Catherine Palace)
สำหรับใครที่เคยดูหนังเรื่อง Anastasia ละก็คงคุ้นๆกับกับพระราชวังแห่งนี้อยู่แน่ๆ โดยพระราชวังแห่งนี้คือฉากที่ นางเอกเข้าไปในวังร้างและก็มีเพลง Once upon a December ขึ้นมา อ่ออออ กันแล้วใช่มั้ยละคะ >< ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นขึ้นในปี ค.ศ. 1717 โดยพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชค่ะ พระราชวังแคทเธอรีนอยู่ที่ เมืองPushkin ห่างจากตัว เมืองSt Peters burg 25 กม. ทรงประสงค์สร้างวังแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยสถาปนิกชาวเยอรมันแต่ใด้รับการต่อเติมและตกแต่งใหม่ในหลายยุคหลายสมัยยุคที่รุ่งเรืองที่สุดว่ากันว่าทั้งพระราชวังและรูปปั้นตกแต่งประดับประดาด้วยทองคำกว่า 100 กิโลกรัม ถึงขนาดมีข่าวลือว่าหลังคาของวังเป็นทองคำแท้ๆเลยทีเดียวแต่พระราชวังก็ได้ถูกทำลายโดยกองทัพเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับความเสียหายอย่างมาก การซ่อมแซมรูปลักษณ์ภายนอกและบางห้องของพระราชวังเสร็จทันงานฉลองครบ 300 ปีของเมือง St Petersburg ในปี 2003 แต่งานซ่อมแซมพระราชวังให้กลับมาสวยงามยิ่งใหญ่เหมือนเดิมยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มีการระดมทุนเพื่อซ่อมแซมหลายทาง รวมทั้งการให้เช่าห้องแกรนด์ฮอลล์เพื่อจัดงานสำคัญๆ รองรับบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น Bill Clinton หรือการแสดงคอนเสิร์ตระดับ exclusive ของ Elton John
สถานีรถไฟใต้ดินเมืองมอสโคว์ รัสเซีย
(Moskovsky metropoliten)
สถานีรถไฟใต้ดินแห่งเมืองมอสโควประเทศรัสเซียนั้นถูกพูดถึงในวงกว้างเรื่องความสวยงามและสถาปัตยกรรมลวยลายที่ไม่เหมือนสถานีรถไฟใต้ที่อื่นๆ ซึ่งในเมืองมอสโควนั้นมีสถานีรถไฟใต้ดินเยอะแยะมากมายเลยค่ะ แต่ละสถานีนั้นก็จะมีลวดลวยโครงสร้างสถาปัยกรรมที่แตกต่างกันไปค่ะ และสถานีรถไฟใต้ดินถูกตกแต่งด้วยผนังหินอ่อนอย่างดี รายล้อมด้วยรูปปั้นของอดีตผู้นำ และตกแต่งด้วยภาพเขียนอันวิจิตรตระการตาบอกเล่าประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ใต้แสงไฟจากโคมแชนเดอเลีย นี่ไม่ใช่พระราชวัง และแตกต่างจากสถานที่เดียวกันในอีกหลายประเทศ สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโก ได้ชื่อว่าสะอาด และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยทีเดียว
สถานีรถไฟความเร็วสูง Sapsan Speed train รัสเซีย
สำหรับรถไฟความเร็วสูง Sapsan นั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่อยากขึ้นรถไฟความเร็วสูงแทนเครื่องบินดุสักครั้งเพราะจะได้นั่งชมวิว ทิวทัศน์สวยๆของประเทศรัสเซียด้วย โดยรถไฟความเร็วสูง Sapsan นั้น จะมีความเร็วสูงสุดประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเดินทางระหว่างมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยในขวบรถไฟจะแบ่งที่นั่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นธุรกิจ (BUSINESS CLASS) ราคาอยู่ที่ 4,200 – 6,500 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 2,500 – 3,900 บาท) และ ชั้นประหยัด (ECONOMY CLASS) 2,500 – 3,500 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 1,500 – 2,100 บาท) นั้นเองค่ะ
มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ รัสเซีย
มหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ หรือที่เรียกกันว่า มหาวิหารโดมทอง (St. Saviour Cathedral) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียและสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Moskva เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน โดยมหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้รัสเซียรบชนะฝรั่งเศส โดยมหาวิหารเซนต์เดอะซาเวียร์ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี ในสมัยของสตาลิน เคยสั่งให้ทุบทำลายมหาวิหารแห่งนี้ จนกระทั่งในสมัยประธานาธิบดีบอริส เยลซิน จึงได้มีการบูรณะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วยเงินบริจาคและพลังความศรัทธาของผู้คน ดังนั้นที่นี่จึงเป็นที่รักและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน มหาวิหารโดมทองแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีกรรมที่สำคัญระดับชาติทางคริสตศาสนาของประเทศรัสเซียค่ะ
หอนาฬิกาซาวิเออร์ รัสเซีย (Savior Tower)
สถานที่สุดท้ายนั้นก็คือ หอนาฬิกาซาวิเออร์ อาคารทรงแหลงสูงซึ่งเป็นอาคารศิลปะโกธิก มองขึ้นไปไลบนยอดหอนาฬิกาจะเห็นว่ามสัญลักษณ์ดาว 5 แฉกที่ทำจากทับทิมน้ำหนักถึง 20 ตันประดับอยู่บนนั้นตามความหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นผู้นำสัญลักษณ์ดาวดวงนี้ประดับไว้เมื่อปี 1995 ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าหอนาฬิกาซาวิเออร์นั้นมีรูปทรงที่อาจจะดูคล้ายคลึงกันกับหอนาฬิกาบิกเบนแห่งอังกฤษอยู่บ้าง คนรัสเซียเล่าสู้กันฟังมาว่าหอนาฬิกาแห่งนี้มีการปรับเวลาที่ไม่ตรงเลยจนมีการร้องเรียนกันมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ จนมาเรื่อยๆก็เลื่อนสถานะเป็นนาฬิกาเทียบเวลาที่มีความสำคัญมากของรัสเซียไปเลย
